คุณเอกชัย ณ ระนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายพัฒนาโครงการและกิจกรรมทั่วไปกับต่างชาติ บมจ.เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเมนท์ (APEX) เปิดเผยว่า กลยุทธ์การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทจะมุ่งเน้นไปที่หัวเมืองท่องเที่ยวหลักในประเทศไทย เพื่อหาทำเลที่มีศักยภาพมาพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสประเภทเรสซิเดนซ์และโรงแรม เพื่อสร้างรายได้จากการขายและมีรายได้ประจำเข้ามาให้กับบริษัท และเป็นการเจาะกลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในจังหวัดท่องเที่ยวเพื่อการลงทุนปล่อยเช่า โดยมีเชนบริหารโรงแรมชั้นนำระดับโลกมาบริหารโครงการ ซึ่งสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาซื้อโครงการเพื่อปล่อยเช่าว่าจะมีการบริหารโครงการที่มีศักยภาพ และได้รับอัตราค่าเช่าที่ดีจากการโครงการที่อยู่ภายใต้การบริหารของเชนโรงแรมระดับโลก ทำให้ลูกค้าสามารถได้รับผลตอบแทนที่ดี อีกทั้งโครงการที่บริษัทพัฒนาเป็นโครงการที่มีกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของที่ดิน (Free Hold) ทำให้ผู้ซื้อมีความมั่นใจในการเป็นเจ้าของ และการพัฒนาจะเป็นในลักษณะของคอนโดมิเนียมซึ่งชาวต่างชาติสามารถซื้อได้

บริษัทยังเตรียมแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในเมืองท่องเที่ยวในช่วงเดือน พ.ย.ที่จะถึงนี้อีกจำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.06 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการแบบมิกซ์ยูสที่มีที่พักอาศัยและโรงแรมในพื้นที่เดียวกัน และจะใช้เชนบริหารโรงแรมชั้นนำระดับโลกเข้ามาเป็นผู้บริหารโครงการ
3 โครงการใหม่ที่เตรียมเปิดตัว ได้แก่ โครงการเรสซิเดนซ์และโรงแรมบนชายหาดไม้ขาว จ.ภูเก็ต เนื้อที่ 14 ไร่ มูลค่า 3.2 พันล้านบาท โครงการ Club Med หาดยาว จ.กระบี่ บนเนื้อที่ 100 ไร่ มูลค่า 3.7 พันล้านบาท และโครงการกระบี่หาดยาว เนื้อที่ 82 ไร่ มูลค่า 3.7 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันโครงการนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับเชนบริหารโรงแรมชื่อดังระดับโลกอยู่ โดยที่ทั้ง 3 โครงการจะเริ่มเปิดการขายในเดือนพ.ย.นี้ และคาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างแล้วเสร็จในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ส่วนแหล่งเงินทุนในการพัฒนาโครงการส่วนใหญ่มาจากเงินกู้สถาบันการเงิน และมีเงินที่ได้รับจากความร่วมมือของพันธมิตร
ล่าสุด บริษัทได้นำโครงการพูลวิลลาสุดหรูระดับพรีเมี่ยม คือ โครงการ Sheraton Phuket Grand Bay Resort and The Residences at Sheraton Phuket Grand Bay มูลค่า 4 พันล้านบาท บนพื้นที่กว่า 66 ไร่ มีพื้นที่ติดทะเลยาวกว่า 650 เมตร ซึ่งโครงการประกอบด้วยส่วนเรสซิเดนซ์แบบพูลวิลลาและห้องสวีทจำนวน 108 ยูนิต และส่วนโรงแรมรีสอร์ทระดับ 5 ดาว จำนวน 183 ห้องพัก มาร่วมออกบูธที่งาน Siam Paragon Luxury Property Showcase 2018 ระหว่างวันที่ 23 ส.ค.-1 ก.ย.61 ที่ชั้น 1 สยามพารากอน

โครงการดังกล่าวได้เริ่มเปิดขายมาตั้งแต่กลางปี 59 โดยปัจจุบันสามารถทำยอดขายได้แล้ว 70% และคาดว่าจะสามารถปิดการขายครบ 100% ได้ภายในสิ้นปี 61 ปัจจุบันโครงการ Sheraton Phuket Grand Bay Resort and The Residences at Sheraton Phuket Grand Bay อยู่ระหว่างการก่อสร้างไปแล้ว 15% คาดว่าในส่วนของเรสซิเดนซ์จะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนได้ในปี 62 ส่วนโซนโรงแรมจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในปี 63

นายเอกชัย กล่าวว่า แนวโน้มของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดท่องเที่ยวในครึ่งปีหลังของปีนี้ยังมีการเติบโตต่อเนื่องจากการเข้าไปลงทุนของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยที่มีการเข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการต่อเนื่อง โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยวหลักชายทะเล เช่น พัทยา ภูเก็ต กระบี่ เป็นต้น เนื่องจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันยังมีความต้องการซื้อที่อยุ่อาศัยในเมืองท่องเที่ยวทั้งจากลูกค้าชาวไทยและลูกค้าชาวต่างชาติอยู่ตลอดเวลา และเป็นการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า ทำให้มีการพัฒนาโครงการในลักษณะของมิกซ์ยูสมากขึ้น โดยที่แต่ละโครงการจะต้องหาจุดเด่นของโครงการนั้นๆที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และมีตัวเลือกให้กับลูกค้าที่หลากหลาย เพื่อทำให้เข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มมากขึ้น โดยที่มองว่าจะเห็นการพัฒนาโครงการในจังหวัดท่องเที่ยวเกิดขึ้นอีกหลายโครงการ และจะเริ่มมีการแข่งขันที่สูงขึ้น